
สิงห์บุรี ได้ชื่อว่าเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงในเรื่องปลาช่อนรสดี เป็นที่ติดอกติดใจแก่ผู้เคยลิ้มลองมานับไม่ถ้วน และหากจะพูดถึงปลาของจังหวัดสิงห์บุรีแล้ว ก็คงต้องนึกถึง “ ปลาช่อนแม่ลา ” ที่มีรสชาติความอร่อยแตกต่างจากปลาช่อนที่อื่นๆโดยสิ้นเชิง
ปลาช่อนแม่ลา หลายคนคงเคยเห็นปลาช่อนแม่ลาย่างไฟอ่อนๆจนเกล็ดและหนังเกรียมดำ เมื่อแกะหนังออกมาแล้วก็จะเห็นเนื้อปลาสีขาวออกน้ำตาลอ่อนๆ มีกลิ่นหอม เนื้อนุ่ม ทานกับน้ำจิ้มปลา โดยมียอดสะเดาย่างไฟเป็นเครื่องเคียง ใครได้ทานเมนูนี้ก็ต้องบอกว่า นี่แหละสุดยอดปลาช่อนแม่ลาเผา ที่ติดอกติดใจนักชิมนักกินชนิดที่เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม และหากใครอยากได้รสชาติปลาแม่ลาที่แท้จริงแล้ว ก็ต้องบอกว่าให้มาทานที่สิงห์บุรีเท่านั้น หากทานนอกเขตพื้นที่สิงห์บุรีแล้ว ก็ไม่รับประกันว่าจะได้ทานปลาช่อนแม่ลาที่เป็นต้นตำรับได้ อาจเป็นปลาช่อนเลี้ยงแล้วนำมาย่างแบบเดียวกับสูตรที่สิงห์บุรีก็เป็นไปได้ และก็เป็นแบบนั้นจริงๆด้วย

นี่แหละปลาช่อนแม่ลาเผ่า อาหารขึ้นชื่อของสิงห์บุรี ชุดนี้ 140 บาท มีสะเดาเป็นเครื่องเคียง มีน้ำจิ้มสองแบบ
ขอให้สังเกตสีของเนื้อปลา จะไม่ขาวมากเหมือนปลาช่อนทั่วไป ปลาแม่ลาสีจะออกขาวปนน้ำตาลอ่อนๆ

นี่เป็นการย่างปลาช่อนแม่ลาที่แท้จริง ย่างทั้งตัวด้วยเตาถ่านไฟอ่อนๆ จนหนังเกรียมๆ

แบบนี้เรียกว่าปลาอบเกลือ หรือปลาย่างเกลือ เห็นกันทั่วๆไป ไม่ไช่ปลาฃ่อนแม่ลาเผานะครับ
ร้านไหนขายปลาแบบนี้แลัวขึ้นป้ายว่า ปลาช่อนแม่ลาเผา ก็ต้องบอกว่าเป็นของปลอม

ห่อหมกปลาช่อน มาซื้อที่นี่ บอกได้เลยว่า ถึงเนื้อถึงเครื่องชนิดที่หาทานจาก ที่อื่นได้ยาก

แกงส้มปลาช่อนผักกระเฉด ราคาถูก น่าจะถ้วยละ 20 บาท แต่ให้เนื้อปลาตั้ง 4-5 ท่อน




หลากหลายเมนูของอาหารปลา ขืนกินหมดก็พุงกางแน่ เพราะน่าอร่อยเกือบทุก

นี่ก็เป็นปลาแดดเดียว น่าจะเป็นปลานิล ตัวขาวสะอาด

มุมนี้เป็นปลาช่อนแดดเดียว จะเป็นปลาแม่ลาหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ เพราะปลาแม่ลาแท้ระยะหลังๆเริ่ม

ปลาเนื้อออ่อนแดดเดียว ปลาชนิดนี้ถือเป็นปลาผู้ดีมีราคา ราคาอาจจะแพงกว่าชาวบ้าน
ยิ่งเป็นปลาย่างที่เรียงเป็นแถวเป็นระเบียบละก้อ โลนึงตั้ง 350 - 400

ปลาเข็ม หรือปลายาว หรือปลารากกล้วยตากแห้ง ทอดกับน้ำมันร้อนๆ ข้าวสวยสักจาน

ได้น้ำกระเจี๊ยบเย็นๆล้างปากสักแก้ว ค่อยชื่นใจ ร้านนี้กระเจ๊ยบเข้มข้นอร่อยมาก
ใครไม่คยเห็นลูกกระเจียบสด ในถาดนั่นแหละ