24 ก.ย. 2553

อ.พรหมบุรี







 
  วัดกุฎีทอง
อยู่ในเขตตำบลบางน้ำเชี่ยวบริเวณกม.ที่ 17 ห่างจากตัวอำเภอตามเส้นทางสาย 32 ประมารณ 400 เมตร ภายในมีมณฑปลักษณะเหมือนเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้บนยอด และภายในองค์ พระเจดีย์นั้นเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธบาทโลหะจำลองไว้เป็นที่เคารพสักการะ นอกจากนั้นในบริเวณวัดกุฎีทองยังมีศูนย์ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านชาวไทยพวน ซึ่งได้รวบรวมเครื่องใช้ไม้สอยในชีวิตประจำวันต่างๆ ของชาวไทยพวน เครื่องมือทำนา ดักสัตว์ จับปลา ตลอดจนยวดยานพาหนะต่างๆ ติดต่อเข้าชมได้ที่พระครูเมตตานุศาสน์ เจ้าอาวาสวัดกุฎีทอง หรือติดต่อคุณวลัยวรรณ สุทธิโพธิ์ ในเวลาราชการ โทร (036) 512320 เสาร์-อาทิตย์ 

  คูค่ายพม่า
อยู่ที่บ้านเจดีย์หัก หมู่ 1 ตำบลบ้านแป้ง ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศใต้ประมาณ 13 กม. เส้นทางหลวงหมายเลข 32 เป็นแหล่งชุมชนโบราณ มีลักษณะเป็นเนินดินแนวยาว รูปร่างคล้ายตัว L กว้างประมาณ 5-15 เมตร ยาวประมาณ 3 เมตร สันิษฐานว่าสร้างขี้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2127 ครั้งที่พม่ายกกองทัพมาตั้งที่ปากน้ำบางพุทรา เพื่อรวบรวมกำลังเข้าตีกรุงศรีอยุธยา

  วัดพระปรางคมุนี
อยู่ห่างจากตัวเมืองไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 สู่อำเภอพรหมบุรี ประมาณกม.ที่ 8 เป็นวัดที่มีภาพจิตรกรรมฝาผนังอยู่ภายในโบสถ์ เขียนขึ้นในราวปี พ.ศ. 2462 เป็นภาพเขียนฝีมือระดับชาวบ้าน แต่ยังคงความงดงามไม่แพ้กันกับที่อื่น อำเภอค่ายบางระจัน


วัดอัมพวัน

 สิงห์บุรี เป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ดังมีหลักฐานจากศิลาจารึก ตู้พระไตรปิฎก และหลักฐานอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งท่านสามารถหาอ่านได้ในหนังสือกฎแห่งกรรม - ธรรมปฏิบัติ ในปัจจุบันวัดอัมพวัน โดยพระเทพสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม) ได้เปิดสำนักฝึกปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ตามแนวสติปัฏฐาน ๔ ขององค์พระศาสดาสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อสอนให้แก่ผู้ใคร่ฝึกปฏิบัติธรรม ได้รับความรู้ที่ถูกต้องในการปฏิบัติ ตลอดจนอบรมธรรมต่างๆเพื่อเป็นการยกระดับจิตใจ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น